5. relative valuation
เปรียบเทียบระหว่างหุ้นของบริษัทที่คล้ายๆกันว่าตัวไหนราคาถูกแพงกว่ากัน
มีขั้นตอนคร่าวๆคือ
1.
หาบริษัทที่คล้ายๆกันมาเป็นตัวเปรียบเทียบ
(หรือเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของธุรกิจกลุ่มเดียวกันก็ได้)
เช่น
บริษัทที่มี growth, risk และ cashflow
ใกล้เคียงกัน (เพราะค่าพวกนี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อ ratio ต่างๆที่จะเอามาเปรียบเทียบกัน)
2.
คำนวณหาค่าที่จะมาเปรียบเทียบ เช่น P/E P/B พวกนี้
เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบระหว่างบริษัทที่มีขนาดต่างกันได้
3.
เทียบ ratio กัน ถ้า ratio
ที่สูงต่ำต่างกันไม่สามารถอธิบายได้ด้วย character ของบริษัท ก็หมายความว่า มันอาจจะ undervalued หรือ overvalued
ได้
วิธีเปรียบเทียบแบ่งได้ 3 กลุ่ม (1กับ2
คล้ายๆกับตอนคำนวณ intrinsic value)
1.
เปรียบเทียบเฉพาะ equity
2.
เปรียบเทียบทั้งบริษัท (firm)
3.
เปรียบเทียบเฉพาะ operating
asset (คือแบบ 2 แต่หักเงินสดออก)
หลักการสำคัญ
1.
ตัวเลขที่มาเทียบกันต้องคำนวณมาวิธีเดียวกัน เช่น ถ้าใช้ P/E ตัว E ต้องหามาด้วยวิธีเดียวกัน
(last year earning, last 4 quarter earning หรือ forward
earning)
2.
ตัวตั้งกับตัวหารต้องสอดคล้องกันว่าจะ equity หรือจะ firm เช่น price
/ net income (อันนี้แบบ equity) หรือ operating
asset / EBITDA (อันนี้แบบ firm) แต่ถ้า price
/ sales หรือ price / EBITDA นี่ไม่สอดคล้องกัน
3.
เปรียบเทียบกับค่าทางสถิติเพื่อดูความถูกแพงหรือความกระโดดของค่าที่คำนวณได้
แต่ให้ระวังว่า ค่าทางสถิติคำนวณมาได้ด้วยวิธีไหน เช่นค่าเฉลี่ย P/E ของตลาด
ตอนคำนวณตัดเอาบริษัทที่ขาดทุนออกไปหรือเปล่า
4.
ค่าทางสถิติเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา P/E 15 อาจจะถูกที่ปีนี้ แต่อาจจะแพงเมื่อ 2-3 ปีก่อน
cashflow + risk + growth แอบมีผลกับ
ratio ที่ใช้ทำ relative compare เช่น
value of equity = expected dividend next year /
(cost of equity – expected growth rate)
PE =
value of equity / net income
= (expected dividend next year / net income) / (cost of equity –
expected growth rate)
= dividend payout ratio / (cost of equity – expected growth rate)
ดังนั้น บริษัทที่มี growth เยอะ ความเสี่ยง(cost
of equity)ต่ำ และจ่ายปันผล(payout ratio)สูง
ก็ควรจะมี PE ที่สูงกว่า
หรือ
PBV = PE x (net income / book value) = PE x ROE
= ROE x dividend payout ratio / (cost of equity – expected growth
rate)
หรือ
enterprise value = expected FCFF next year /
(cost of equity – expected growth rate)
= EBIT x (1 – tax rate) x (1 – reinvestment
rate) / (cost of equity – expected growth rate)
ดังนั้น
enterprise value / sales = after-tax operating
margin x (1 – reinvestment rate) / (cost of equity – expected growth rate)
สรุปปัจจัยที่มีผลต่อ ratio ต่างๆตามตารางนี้
Multiple
|
growth
|
payout
|
risk
|
ROE
|
net margin
|
reinvestment rate
|
ROIC
|
operating margin
|
PE
|
+
|
+
|
-
|
|||||
PBV
|
+
|
+
|
-
|
+
|
||||
Price/Sales
|
+
|
+
|
-
|
+
|
||||
EV/FCFF
|
+
|
-
|
||||||
EV/EBITDA
|
+
|
-
|
-
|
+
|
||||
EV/Capital
|
+
|
-
|
-
|
|||||
EV/Sales
|
+
|
-
|
-
|
+
|
เช่น ถ้า expected growth สูงก็จะมีผลให้ ratio
ต่างๆสูงตาม หรือ ถ้าต้อง reinvestment สูง
ค่า EV/EBITDA, EV/Capital และ EV/Sales ก็จะต่ำ
ตรงนี้ก็จะใช้หาหุ้นที่ undervalued ได้
เช่นหุ้นที่มีลักษณะเหล่านี้
Multiple
|
variable
|
character
|
PE
|
growth
|
PE ต่ำแต่ growth สูง
|
PBV
|
ROE
|
PBV ต่ำแต่ ROE สูง
|
Price/Sales
|
net margin
|
P/S ต่ำแต่ net margin สูง
|
EV/EBITDA
|
reinvestment rate
|
EV/EBITDA ต่ำและ
reinvestment rate ต่ำ
|
EV/Capital
|
return on capital
|
EV/Capital ต่ำแต่ return
on capital สูง
|
EV/Sales
|
after-tax operating margin
|
EV/Capital ต่ำแต่
after-tax operating margin สูง
|
blogอื่นๆของหนังสือเล่มนี้
The Little Book of Valuation - Aswath Damodaran (ตอนที่ 1/6)
The Little Book of Valuation - Aswath Damodaran (ตอนที่ 2/6)
The Little Book of Valuation - Aswath Damodaran (ตอนที่ 3/6)
The Little Book of Valuation - Aswath Damodaran (ตอนที่ 4/6)
The Little Book of Valuation - Aswath Damodaran (ตอนที่ 5/6)
The Little Book of Valuation - Aswath Damodaran (ตอนที่ 6/6)
The Little Book of Valuation - Aswath Damodaran (ตอนที่ 2/6)
The Little Book of Valuation - Aswath Damodaran (ตอนที่ 3/6)
The Little Book of Valuation - Aswath Damodaran (ตอนที่ 4/6)
The Little Book of Valuation - Aswath Damodaran (ตอนที่ 5/6)
The Little Book of Valuation - Aswath Damodaran (ตอนที่ 6/6)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น