วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Resource : AngularJS

Directive

an easy-understandable and practical tutorial

Scroll to Anchor

http://stackoverflow.com/questions/17711232/scroll-to-in-angularjs

Useful Pages

AngularJS Newsletter : many useful articles
http://www.ng-newsletter.com/posts/
my favorite, short one
http://www.ng-newsletter.com/advent2013/#!/

AngularJS tips (haven't check yet but likely useful)
http://angular-tips.com/

Using AngularJS + underscore.js
http://blog.mohammedlakkadshaw.com/AngularJS_Underscore_ultimate_web_development.html#.UrutMJDtnb4

A Good Explanation to Directive in AngularJS
http://www.ng-newsletter.com/posts/directives.html

Using AngularJS + jQuery chosen
http://onehungrymind.com/angularjs-chosen-plugin-awesome/
NOTE: change $watch --> $watchCollection

Difference between href and path()

$window.location.href = ('/actual/add');wll go back to server to fetch page, e.g. http://localhost:8000/actual/add, while
$location.path('/add');will lookup $routeProvider with to fetch content to fill <ng-view> tag
browser URL will show e.g. http://localhost:8000/actual#/add

Multiple Apps in Same Page

sample here >> http://plnkr.co/edit/UowJpWYc1UDryLLlC3Be?p=preview
instead of ng-app directive, use following code
<script>
angular.element(document).ready(function() {
        angular.bootstrap(document.getElementById('myApp1'), ['myApp1']);
        angular.bootstrap(document.getElementById('myApp2'), ['myApp2']);
});
</script>

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Cheat Sheet : Directives in AngularJS

Controller

$scope.api = {
    onCreate: function(tag) { console.log('add NEW tag', tag); },
    onChange: function(qid, change) { $scope.onTagChange(qid, change); },
}

$scope.testFn = function(obj) {
    console.log('testFn recv ', obj);
}


$scope.onTagChange = function(qid, change) {
    ...
}

Directive

app.directive('chosen',function($parse){
    var linker = function(scope, element, attrs) {
            // example for isolated scope
            console.log(scope.index); // use variable passed from tag
            scope.testFn({obj: change}); // call function with parameter from directive
            scope.api.onChange(scope.question, change); // call function in object passed from tag
            scope.callback()(scope.index, change); // call function passed from tag

            // example for inherited scope
            scope.onTagChange(scope.$index, change); // directly call function from parent scope (in case not using isolated scope)
    };

    return {
        restrict:'A',
        link: linker,
        scope: {index: '=',
                callback: '&chosenChange', // rename in local : chosenChange --> callback
                api: '=chosenApi', // rename in local : chosenApi --> api
                testFn: '&'},
    }

HTML


<div chosen="choice.subtags" chosen-change="onTagChange" chosen-api="api" test-fn= "testFn(obj)" index="$index">

Another Example

Controller

$scope.value = {a: 10};
$scope.inc = function(){
    $scope.value.a += 1;
}
$scope.dec = function(){
    $scope.value.a -= 1;
}

Directive

app.directive('ngSparkline', function() {
  return {
    restrict: 'A',
    scope: {value: '=value', inc: '&incFn', dec: '&decFn'},
    link: linker,
    controller: ['$scope', function($scope) {
        $scope.value8 = $scope.value * 8;
    }],
    template: '<input type="text" ng-model="value8" placeholder="Enter a value" ng-click="inc()" ng-blur="dec()" />',
  }
});

HTML

<div ng-sparkline value="value.a" inc-fn="inc()", dec-fn="dec()"></div>

วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556

mysqlsla v2 : MySQL Slow Query Log Analyzer

Reference

Installation

  1. Download mysqlsla-2.03.tar.gz
  2. tar xvfz mysqlsla-2.03.tar.gz
  3. cd mysqlsla-2.03
  4. perl Makefile.PL
  5. make
  6. sudo make install

Cheat Sheet

analyze slow query log
    mysqlsla -lt slow /var/log/mysql/mysql-slow.log
analyze slow query log from specified user
    mysqlsla -lt slow /var/log/mysql/mysql-slow.log -mf user=user1
analyze slow query log with rows examined > 10
    mysqlsla -lt slow /var/log/mysql/mysql-slow.log -mf 're>10'
analyze top 3 slow query log from specified user
    mysqlsla -lt slow /var/log/mysql/mysql-slow.log -mf user=user1 --top 3

analyze slow query log filter only select statement
    mysqlsla -lt slow /var/log/mysql/mysql-slow.log -sf +select

analyze slow query log filter only non-select statement
    mysqlsla -lt slow /var/log/mysql/mysql-slow.log -sf -select

MySQL 5.5 : Slow Query Log

for MySQL 5.5 to log slow queries, setting in /etc/mysql/my.cnf

log-queries-not-using-indexes = 1
log-slow-queries=1
slow_query_log_file   = /var/log/mysql/mysql-slow.log
long_query_time = 1

reference : http://dev.mysql.com/doc/refman/5.5/en/slow-query-log.html

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Promise and Deferred in AngularJS


Reference


Very simple example of using promises
http://markdalgleish.com/2013/06/using-promises-in-angularjs-views/

An example of using notify() to update progress
http://nurkiewicz.blogspot.com/2013/03/promises-and-deferred-objects-in-jquery.html

Official document of AngularJS promise/deferred
http://docs.angularjs.org/api/ng.$q


compare code : callback .vs. promise


CallbackPromise
in function
var getMessages = function(callback)
{
    $timeout(function() {
        callback(['Hello', 'World!']);
    }, 2000);
}
in function
var getMessages = function()
{
    var deferred = $q.defer();
    $timeout(function() {
        deferred.resolve(['Hello', 'World!']);
    }, 2000);
    return deferred.promise;
}
in controller
getMessages(function(messages) {
    $scope.messages = messages;
});
in controller
getMessages().then(function(messages) {
    $scope.messages = messages;
});

promise with notify()


in function
var getMessages = function() {
    var deferred = $q.defer();

    var id = setInterval(function() {
        deferred.notify();
    }, 1000);

    $timeout(function() {
        clearInterval(id);
        deferred.resolve(['Hello', 'World!']);
    }, 9000);
    return deferred.promise;
}


in controller
HelloWorldP.getMessages().then(
function(messages) { // function for resolve() callback
    $scope.p.messagesp = messages;
}, 
null, // function for error callback
function(){// function for notify() callback
    $scope.p.waiting_msg += '.';
});

วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ถึงเวลาท้าทายสมอง - ข้อคิดดีๆ


หนังสือ "ถึงเวลาท้าทายสมอง" โดย หนูดี วนิษา เรซ
หนังสือที่เหมาะกับผู้ที่รังเกียจเงิน รังเกียจความรวย กลัวที่จะสร้างธุรกิจของตัวเอง หรือเจ้าของธุรกิจที่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุข
นี่คือเคล็ดลับการทำธุรกิจอย่างมีความสุขจากคนที่ไม่เคยเรียน MBA

เนื้อหาข้างล่างเลือกมาเฉพาะที่โดนใจ มิใช่เนื้อหาทั้งหมด
ถ้าสนใจ เชิญซื้อหามาอ่านได้ ราคาไม่แพง(?)

"Sometimes you just have to take the leap and build your wings on the way down."
"บางครั้ง คนเราก็ต้องยอมกระโดดลงจากที่สูง แล้วค่อยๆสร้างปีกขึ้นมา ระหว่างที่กำลังร่วงอยู่นั่นแหละ"

Kobi Yamada

กับดักของเป้าหมาย

"เรามีเป้าหมายอยู่ที่สุดทางก็จริง แต่ชีวิตของเราเกิดขึ้นในระหว่างเส้นทางเท่านั้น การดำเนินชีวิตให้มีความสุขตลอดเส้นทางจึงเป็นเป้าหมายสูงสุด"

วางแผนชีวิตก่อนวางแผนธุรกิจ

"ธุรกิจสำคัญก็จริง แต่มีอีกสิ่งที่สำคัญกว่านั้น นั่นคือ"ชีวิตของเรา" เพราะธุรกิจเป็นแค่"ซับเซ็ต"หรือองค์ประกอบหนึ่งในชีวิตองค์รวมของเราทั้งหมดเท่านั้น"

เป็นห่วงใคร ให้ทำธุรกิจกับคนนั้น

"ถ้าเราเลือกทำธุรกิจสายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกลุ่มคนที่เราเป็นห่วง ก็จะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นและสนุกขึ้นมาก เพราะเราจะได้ใช้เวลาวันละ 8 ชั่วโมงกับสิ่งที่มีความหมายกับความรู้สึกเราอย่างแท้จริง"
"...ไม่ได้หมายความว่า ไปหาวิธีเอาเงินมาจากเขา... แต่หมายความว่าพยายามผลิตสินค้าที่ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น"
"ถ้าเราก่อร่างสร้างธุรกิจบนพื้นฐานความคิดนี้ ทุกวันคือการทำบุญ และเงินทุกบาทที่เราได้มาคือเงินมงคล"

โครงสร้างธุรกิจ คิดแบบเซน

"เงินทอง ชื่อเสียง อำนาจ มีค่ามหาศาลในฐานะเครื่องมือที่ทรงพลัง ในการช่วยเหลือผู้อื่น"
"ดื่มชา อย่าดื่มโปรเจกต์"

"เวลาดื่มชา เห็นก้อนเมฆไหม"

เงินทอง เครื่องวัดขนาดของใจ

"เราสามารถทำงานที่ได้เงินเยอะและเป็นงานที่มีความสุขก็ได้"
"คนไม่มีเงินนั้นคิดถึงเงินมากกว่าคนมีเงินหลายเท่า และการเป็นคนมีเงินก็หมายถึงการมีอิสรภาพจากการต้องคิดถึงเงินตลอดเวลา"
"เงินสำคัญที่สุดสำหรับทุกเรื่องที่ต้องใช้เงิน และไม่สำคัญเลยสำหรับเรื่องที่ไม่ต้องใช้เงิน"
"หากเรามีปัญหากับใครหรืออะไร ให้ไปแก้ปัญหานั้นให้ตรงจุดดีกว่า...แก้ปัญหาที่ปัญหา ไม่ใช่เกลื่อนปัญหาด้วยการออกไปใช้เงิน..."
"ความรวยเป็นแค่ความปลอดภัยขั้นที่หนึ่ง ความมีอิสรภาพทางการเงินเป็นความปลอดภัยขั้นที่สอง แต่ความปลอดภัยสูงสุดคือการมีอิสรภาพทางใจ"
"หากเงินจะเป็นอะไรสักอย่าง ก็คงเป็นกระจกที่สะท้อนให้เห็นชัดถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ลึกสุดในจิตใจของเราเอง"

วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556

52 เคล็ดวิชาเปลี่ยนคนธรรมดาให้เป็นอัจฉริยะ (The Little Book of Talent)

หนังสือ "52 เคล็ดวิชาเปลี่ยนคนธรรมดาให้เป็นอัจฉริยะ"
สำนักพิมพ์ WeLEARN
แปลจากหนังสือเรื่อง"The Little Book of Talent" ของ Daniel Coyle
หนังสือเกี่ยวกับเคล็ดลับที่ผู้เขียนสังเกตสังกามาจากโรงเรียนหรือแหล่งต่างๆที่สร้างเหล่าอัจฉริยะออกมาสู่วงการกีฬา ดนตรี ศิลปะและอื่นๆ
ตัวอย่างส่วนใหญ่มาจากการฝึกนักกีฬาหรือศิลปิน แต่บางอันสามารถเอามาปรับใช้กับนักเรียน นักศึกษาหรือคนที่กำลังเตรียมตัวสอบได้ ก็เลยลองสรุปดู

ตั้งต้น
ข้อที่ คำอธิบาย สำหรับนักเรียน
#1 จับจ้องคนที่คุณอยากจะเป็น เพื่อกระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจ ลองหาเพื่อนที่เก่งๆในห้องซักคนเพื่อเป็นแรงบันดาลใจว่าเราจะเก่งแบบนั้นให้ได้ (เก่งแต่โกงหรือเก่งแต่เห็นแก่ตัวนี่ไม่เอานะ)
#2 ใช้เวลาวันละ 15  นาทีเพื่อประทับทักษะลงในสมอง ตั้งอกตั้งใจเฝ้าดูทักษะที่ต้องการฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนภาพของมันประทับอยู่ในใจอย่างชัดเจน ดูมันเข้าไป แต่อย่าออกนอกหน้า เดี๋ยวเค้าจะคิดว่ามีใจ 555
#3 อย่าอายที่จะขโมย พัฒนาการทุกอย่างเป็นผลมาจากการซึมซับข้อมูลใหม่ๆและนำไปประยุกต์ใช้เท่านั้น ลองถามๆดูว่ามันมีวิธีเรียนวิธีคิดวิธีจดเลกเชอร์ยังไง เผื่อเราเอามาดัดแปลงใช้แบบของเราบ้าง
#4 จดบันทึก จดบันทึกผลงานในวันนี้ ไอเดียสำหรับวันพรุ่งนี้ และเป้าหมายสำหรับสัปดาห์ถัดไป
#5 ยอมดูเหมือนเป็นคนโง่ ลองเสี่ยงทำอะไรใหม่ๆบ้าง แม้จะผิดพลาดและดูโง่
#6 เรียบง่ายดีกว่าหรูหรา สถานที่ที่เรียบง่ายจะช่วยให้เรามีสมาธิมากขึ้น
ความสบายจะทำให้เราลดความพยายามลง
สถานที่เรียนไม่ต้องหรูเลิศไฮโซมากก็ได้ ง่ายๆพื้นๆก็พอ
#7 ต้องการฝึกทักษะทางตรงหรือทักษะทางอ้อม ทักษะทางตรง(hard skill)เน้นความแม่นยำในการทำซ้ำ
ทักษะทางอ้อม(soft skill)เน้นการมองแบบแผนให้ออกและตอบสนองต่อสถานการณ์ตามหลัก3Rคือประเมิน(Reading) เล็งเห็น(Regognizing) และตอบสนอง(Reacting)
ทักษะทางตรงน่าจะพวกความรู้หรือสูตรพื้นฐาน ส่วนทักษะทางอ้อมน่าจะวิธีประยุกต์ใช้กับโจทย์ละมั้ง
#8 วิญญาณช่างไม้ฝีมือประณีตสำหรับทักษะทางตรง ใส่ใจทุกรายละเอียด
ทำอย่างถูกต้องแม่นยำ(ตั้งแต่ตอนแรกๆ)
ให้ความสำคัญกับเทคนิคพื้นฐาน
ความรู้พื้นฐานเราต้องเป๊ะ สูตรต้องจำได้แม่นไม่ผิดเพี้ยน
#9 วิญญาณนักสเก็ตบอร์ดสำหรับทักษะทางอ้อม ทำซ้ำในสถานการณ์หลากหลายรูปแบบ
สำรวจทุกแง่มุม
เรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น
อย่ากังวลกับความผิดพลาด
ลองทำโจทย์หลายๆรูปแบบ สังเกตดูว่าแบบไหนเราพลาดบ่อย แล้วพลาดเพราะอะไร ที่ถูกต้องควรจะเป็นยังไง
#10 ยกย่องทักษะทางตรง ทักษะทางตรงเป็นรากฐาน ส่งผลต่อความเก่งกาจในระยะยาวมากกว่า
ทักษะทางตรงเหมือนลำต้น ทักษะทางอ้อมเหมือนกิ่งก้านสาขา ลำต้นต้องแข็งแรงก่อนถึงจะแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปได้
ความรู้พื้นฐานเอาให้เป๊ะ ไม่งั้นตอนไปประยุกต์ใช้จะหลงไปผิดทิศผิดทางได้
#11 อย่าเชื่อเรื่องเก่งแต่เกิด การฉายแววตั้งแต่อายุยังน้อยไม่ได้บ่งชี้ความสำเร็จในอนาคต เชื่อมั่นว่าตัวเองทำได้ ถ้าคิดว่าโง่กว่าคนอื่นก็พยายามให้มากกว่า
#12 กฏ 5 ข้อในการเลือกผู้ฝึกสอน 1) อย่าเลือกคนที่ทำให้รู้สึกสบายใจและมีความสุข
2) เลือกคนที่ทำให้หวั่นเกรงนิดๆ
3) เลือกคนที่ให้คำแนะนำสั้นๆแต่ชัดเจน
4) มองหาคนที่ชอบปูพื้นฐาน
5) ถ้าทุกอย่างเท่ากันหมด เลือกคนที่มีอายุมากกว่า
พัฒนาทักษะ
#13 ค้นหาจุดกลมกล่อม จุดที่อยู่สุดขอบความสามารถ จุดที่พยายามอีกนิดก็จะสำเร็จแล้ว
#14 ลืมเรื่องเวลาไปซะ การฝึกฝนวัดกันที่จำนวนครั้งที่ดิ้นรนพยายามจนสำเร็จ ไม่ได้วัดกันที่เวลา ตั้งเป้าหมายการทบทวนบทเรียนด้วยจำนวนครั้ง ไม่ใช่ด้วยเวลา เช่นนับกันว่าทำโจทย์ให้ถูกวันละกี่ข้อ
#15 แบ่งทักษะออกเป็นส่วนย่อยๆ ค่อยๆทำไปทีละน้อย เพราะมันสอดคล้องกับกระบวนการเรียนรู้ของสมอง แบ่งเนื้อหาในบทเป็นส่วนย่อยๆ
#16 ขัดเกลาทักษะให้สมบูรณ์แบบวันละหนึ่งส่วนย่อย เป้าหมายไม่ใช่แค่ฝึกซ้อมจนครบเวลาที่กำหนด แล้วค่อยๆทำความเข้าใจไปทีละส่วน
#17 จงตะเกียกตะกาย เพื่อสร้างความเชื่อมโยงใหม่ๆในสมอง
ยิ่งเจ็บใจยิ่งแข็งแกร่ง
ทำโจทย์หรือทบทวนบทที่เรายังทำไม่ได้หรือยังไม่เข้าใจ อย่ามัวแต่ทำส่วนที่ทำได้แล้วมานั่งสบายใจว่าทำได้เยอะ
#18 ซ้อมวันละ 5 นาทีดีกว่าสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง สมองเติบโตทีละน้อยอยู่ตลอดเวลา
ถึงเวลาจะน้อยแต่ให้จดจ่ออย่างเต็มที่และคอยมองหาจุดผิดพลาด
ทำให้การฝึกซ้อมกลายเป็นนิสัย(ใช้เวลาอย่างน้อย30วัน)
ฝึกทุกวัน ทบทวนทุกวัน วันละนิด(หรือวันละมากก็ได้ถ้าไหว)
#19 คิดว่ามันเป็นเกม เกมน่าสนุก ต่อเนื่องและน่าตื่นเต้น
การฝึกซ้อมจำเจ ไร้จุดหมาย ซ้ำซาก น่าเบื่อ ไร้ชีวิตชีวา
คิดเกมสนุกเล่น หาเรื่องให้รางวัลตัวเองบ้าง อย่างเช่นตั้งเป้าหมายว่าจะทำโจทย์ให้ถูกติดต่อกัน 50 ข้อ ถ้าทำได้จะได้กินขนม ไรงี้
#20 ฝึกซ้อมตามลำพัง เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการค้นหาจุดกลมกล่อมและสร้างวินัยในตัวเอง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเอง ฝึกฝนคนเดียว แล้วทำคะแนนดีๆให้เพื่อนมันเซอไพรส์เล่นๆ หุๆๆๆ
#21 คิดเป็นภาพ ง่ายต่อการทำความเข้าใจ จดจำและทำตาม ลองสรุปเนื้อหาของแต่ละบทให้เป็นภาพ คิดซะว่าตัวเองเป็นใบ้หรือกำลังสอนให้คนหูหนวก สิ่งที่ทำได้คือวาดรูป
#22 แก้ไขทันทีที่เกิดข้อผิดพลาด อย่าเพิกเฉยและแกล้งทำเป็นไม่มีอะไร
จงใส่ใจและแก้ไขความผิดพลาดแต่อย่าฝังใจ
เมื่อทำโจทย์ผิด ให้ดูเฉลยทันทีว่าเราทำผิดตรงไหน แล้ววิธีที่ถูกคืออะไร
#23 นึกภาพสายส่งข้อมูลในสมอง สร้างความเชื่อมโยงใหม่ๆในสมองและเพิ่มความแข็งแกร่งให้มัน
ความผิดพลาดคือเครื่องมือในการพัฒนาทักษะ
#24 นึกภาพสายส่งข้อมูลทำงานเร็วขึ้น
#25 ฝึกในที่แคบๆ ข้อจำกัดสร้างสถานการณ์ที่บีบคั้นและทำให้ต้องดิ้นรนตลอดเวลา สำหรับนักเรียนอาจจะเป็นการทำโจทย์ในเวลาที่จำกัดก็ได้ ทำให้ต้องดิ้นรนคิดให้เร็วขึ้น
#26 ฝึกซ้อมแบบเต่าคลาน ไม่ต้องรีบเป็นให้เร็ว
ฝึกซ้อมช้าๆจะทำให้มองเห็นข้อผิดพลาดได้ชัดเจนขึ้น
อย่าโดดเข้าหาสูตรลัดทันทีโดยไม่เข้าใจพื้นฐาน
#27 หลับตา เพื่อกำจัดสิ่งรบกวนสมาธิ หลับ...ไม่ใช่ อาจจะลองหลับตานึกทบทวนบทเรียนในหัวก็ได้
#28 ทำท่าทางเหมือนแสดงละครใบ้ ตัดส่วนเกินออกไป จดจ่อกับสิ่งที่มีความสำคัญที่สุด
#29 ทำเครื่องหมายไว้ทุกครั้งที่ทำถูกต้อง ทุกครั้งที่ทำได้ถูกต้อง ให้หยุดนิ่งแล้วนึกย้อนกลับไปว่าทำได้อย่างไร โจทย์ใหม่ๆหรือโจทย์ยากๆที่ทำได้ถูก ลองทบทวนขั้นตอนดูอีกทีว่าแก้โจทย์ยังไง
#30 หลับซักงีบ ช่วยให้สมองเรียนรู้ได้ดีขึ้น เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความเชื่อมโยงในสมองที่พึ่งสร้างขึ้นจากการฝึกซ้อม
เตรียมสมองให้พร้อมสำหรับการฝึกซ้อมครั้งต่อไป
ตามนั้น หลับให้พอ อย่าฝืน (ซึ่งหมายความว่า ควรเตรียมตัวสอบแต่เนิ่นๆ อย่ามาเร่งสปีดกันตอนใกล้ๆสอบ)
#31 ทำแบบสุดโต่งเมื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การทำอะไรแบบสุดโต่งช่วยให้เรารู้ว่าขอบเขตที่เหมาะสมอยู่แค่ไหน
#32 จดจ่อกับเป้าหมาย จดจ่อกับเป้าหมาย ไม่ใช่ความผิดพลาด
การวางกรอบในแง่บวก(positive framing)
เช่น ฉันจะทำให้ได้เกรดสี่ทุกวิชา ไม่เอาเป้าหมายแบบฉันจะไม่เป็นที่โหล่
#33 ปิดหนังสือ อ่านรอบเดียว ปิดหนังสือแล้วสรุปออกมา เพื่อเพิ่มการดิ้นรนในการ
(1) จับประเด็น
(2) ประมวลผลและจัดระเบียบ
(3) เขียนลงกระดาษ
ยิ่งดิ้นรนมาก ยิ่งเรียนรู้มาก
ตามนั้น
#34 เทคนิคประกบคู่ ทำสิ่งที่ถูกต้อง ทำสิ่งที่ผิด ทำสิ่งที่ถูกต้องซ้ำอีกครั้ง
เพื่อเน้นย้ำสิ่งที่ถูกต้องและมองเห็นข้อผิดพลาดได้ชัดเจนขึ้น
#35 ฝึก3พัก10 สมองจะสร้างความเชื่อมโยงได้ดีขึ้นถ้าถูกกระตุ้น 3 ครั้ง
ฝึกซ้อม 3 รอบ พัก 10 นาทีระหว่างรอบ
ตามนั้น อาจจะทำโจทย์ 3 ชุด ระหว่างชุดก็พักซัก 10 นาที (ไม่ใช่ทำโจทย์ข้อนึงแล้วพัก 10 นาทีนะ - -;)
#36 คิดค้นแบบฝึกหัดประจำวัน เพื่อให้สามารถประเมินความก้าวหน้าได้ต่อเนื่อง ลองคิดดูเล่นๆขำๆ ถ้าทำได้ก็ให้รางวัลตัวเองนิดนึง
#37 R.E.P.S. การฝึกฝนที่ดีควรจะมี
การดิ้นรนพยายามและทำซ้ำ(Reaching and Repeating)
การดึงความสนใจ(Engagement)
ความสอดคล้อง(Purposefulness) และ
ข้อมูลป้อนกลับที่เร็วและชัดเจน(Strong, Speedy Feedback)
#38 หยุดก่อนหมดแรง ความอ่อนเพลียทำให้สมองทำงานช้าลง ตามนั้น อย่าหักโหม
#39 ฝึกทันทีหลังจากแข่งเสร็จ ช่วยให้แก้ไขข้อผิดพลาดได้อย่างตรงจุด เพราะยังจำได้ว่าพลาดตรงไหน อันนี้สำคัญ หลังจากสอบเสร็จ ไม่ใช่มานั่งพักผ่อนชิลๆ แต่ให้กลับไปทบทวนบทเรียนส่วนที่คิดว่าทำพลาด
#40 image training ก่อนเข้านอน นึกภาพว่าตัวเองกำลังใช้ทักษะที่ปรารถนาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ข้อดีคืออาจทำให้ฝันดีได้ในระหว่างนอน 555
#41 ปิดท้ายการซ้อมด้วยสิ่งโปรดปราน ให้รางวัลเล็กๆน้อยๆกับตัวเอง หนังโป๊ซักเรื่อง ขนมซักชิ้น หรือโทรคุยกับแฟน
#42 หนทางสู่การเป็นผู้สอนที่ดี 1) สร้างความเชื่อใจภายในไม่กี่วินาทีแรกที่พบกับผู้เรียน
2) ให้ข้อมูลที่กระชับและชัดเจน
3) อย่าใช้คำพูดที่คลุมเครือ
4) กำหนดตัวชี้วัดการเรียนรู้
5) สร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดความพยายาม
6) ทำให้ผู้เรียนยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง
เผื่อว่าถ้าน้องไปรับงานสอนพิเศษก็เอาหลักการพวกนี้มาใช้ได้
รักษาความก้าวหน้า
#43 เปิดใจรับการทำซ้ำ การทำซ้ำเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการพัฒนาทักษะ ทำโจทย์ซ้ำๆได้ไม่ตายหรอก
#44 เป็นคนใช้แรงงาน ทุ่มเทเวลาให้กับการฝึกฝนอย่างจริงจัง ถ้าคิดว่าตัวเองโง่กว่าคนอื่น ก็จงใช้เวลาให้มากกว่าคนอื่น
#45 อัตราส่วน5:1 ฝึก5แข่ง1 อันนี้ไม่ค่อยเกี่ยว
#46 สร้างนิสัยดีๆแทนการแก้นิสัยแย่ๆ สมองเก่งในการสร้างความเชื่อมโยงใหม่ๆ แต่ไม่เก่งในการทำลายความเชื่อมโยงที่เกิดขึ้นแล้ว
ทุ่มเทพลังไปสร้างนิสัยดีๆ อย่ารีบร้อน ทำใจยอมรับความงี่เง่าของตัวเองในช่วงแรกๆ
#47 ฝึกฝนด้วยการสอนผู้อื่น เราจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเวลาสอนผู้อื่น ตามนั้น ผลข้างเคียงคือเราจะเป็นที่รักของเพื่อนๆ จะไม่มีใครมาว่าเราหวงวิชา ถ้าเป็นคนทำงาน ผลดีคืองานจะไม่มามะรุมมะตุ้มอยู่ที่เราคนเดียว
#48 ให้เวลาอย่างน้อย8สัปดาห์ การสร้างและขัดเกลาวงจรประสาทต้องใช้เวลา ฝึกไปเรื่อยๆแม้จะยังไม่รู้สึกว่าเก่งขึ้น ใจร่มๆ ค่อยๆใช้เวลาฝึกฝน เดี๋ยวก็เก่งเอง
#49 เมื่อติดหล่ม จงเปลี่ยนเกียร์ ภาวะย่ำอยู่กับที่เกิดขึ้นเมื่อสมองพัฒนาทักษะไปจนถึงขั้นใช้ทักษะได้โดยอัตโนมัติ
ให้เปลี่ยนวิธีฝึกฝนเพื่อก่อกวนและกระตุ้นสมอง(เช่นทำให้เร็วขึ้น ทำให้ช้าลง)
#50 บ่มเพาะความทรหด ความทรหดจะสร้างความแตกต่างในระยะยาว
#51 เก็บเป้าหมายไว้เป็นความลับ จะช่วยสร้างแรงจูงใจได้มากขึ้น อุบเงียบไว้ อย่าบอกใครจนกว่าจะทำได้ ให้มันเซอไพรส์เล่นๆ 555
#52 คิดแบบคนสวน ทำแบบช่างไม้ คิดอย่างใจเย็นและไม่ด่วนตัดสิน
ทำอย่างต่อเนื่องและมีกลยุทธ
ต้องมีกลยุทธที่ถูกต้องนะ ไม่งั้นเสียเวลาเปล่า ว่างๆก็มานั่งทบทวนกลยุทธหรือแนวทางการเรียนการจัดเวลาก็ดีเหมือนกันนะ